ความเสียหายที่เกิดจากอัคคีภัย เป็นการยากที่จะควบคุมและป้องกันมิให้เกิดอัคคีภัยขึ้น ได้อย่างเด็ดขาดและเสมอไปเพราะอัคคีภัยนั้นเปรียบเสมือน 'ศัตรูที่ไม่รู้จักหลับ' และความประมาท เลินเล่อของผู้ทำงานหรือผู้ประกอบกิจการเป็นจำนวนมากยย่อม' จะเกิดและมีขึ้นได้ไม่วันใด ก็วันหนึ่ง จึงเห็นควรที่จะต้องช่วยกันป้องกันอัคคีภัย
-
ในการป้องกันอัคคีภัยจะมีสิ่งที่ควรปฏิบัติเฉพาะเรื่องเฉพาะอย่างอีกมากมาย แต่ก็ มีหลักการง่าย ๆ ในการป้องกันอัคคีภัยอยู่ 5 ประการ คือ
1. การจัดระเบียบเรียบร้อยภายในและภายนอกอาคารให้ดี เช่น การขจัดสิ่งรกรุงรังภายในอาคาร บ้านเรือนให้หมดไป โดยการเก็บรักษาสิ่งที่อาจจะเกิดอัคคีภัยได้ง่ายไว้ให้เป็นสัดส่วน ซึ่งเป็นบันได ขั้นต้นในการป้องกันอัคคีภัย
2. การตรวจตราซ่อมบำรุงบรรดาสิ่งที่นำมาใช้ในการประกอบกิจการ เช่น สายไฟฟ้า เครื่องจักรกล เครื่องทำความร้อน ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และความปลอดภัยก็จะป้องกันมิให้เกิดอัคคีภัย ได้ดียิ่งขึ้น
3. อย่าฝ่าฝืนข้อห้ามที่จิตสำนึกควรพึงระวัง เช่น
-
(1) อย่าปล่อยให้เด็กเล่นไฟ
-
(2) อย่าจุดธูปเทียนบูชาพระทิ้งไว้
-
(3) อย่าวางก้นบุหรี่ที่ขอบจานที่เขี่ยบุหรี่ หรือขยี้ดับไม่หมด ทำให้พลัดตกจากจาน หรือ สูบบุหรี่บนที่นอน
-
(4) อย่าใช้เครื่องต้มน้ำไฟฟ้าแล้เสียบปลั๊กจนน้ำแห้ง
-
(5) อย่าเปิดพัดลมแล้วไม่ปิดปล่อยให้หมุนค้างคืนค้างวัน
-
(6) อาจมีเครื่องอำนวยความสุขอย่างอื่น เช่น เปิดโทรทัศน์ แล้วลืมปิด
-
(7) วางเครื่องไฟฟ้า เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น ติดฝาผนัง ความร้อนระบายออกไม่ได้ตามที่ควรเป็น เครื่องร้อนจนไหม้ตัวเองขึ้น
-
(8) อย่าหมกเศษผ้าขี้ริ้ว วางไม้กวาดดอกหญ้า หรือซุกเศษกระดาษไว้หลังตู้เย็น บางครั้ง สัตว์เลี้ยงในอาคารก็คาบเศษสิ่งไม้ใช้ไปสะสมไว้หลังตู้เย็นที่มีไออุ่นอาจเกิดการคุไหม้ขึ้น
-
(9) อย่าใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานหรือปลอมแปลงคุณภาพ เช่น บาลาสต์ที่ใช้กับ หลอดไฟฟ้าฟลูออเรสเซนท์เมื่อเปิดไฟทิ้งไว้อาจร้อน และลุกไหม้ส่วนของอาคารที่ติดอยู่
-
(10) อย่าจุดหรือเผาขยะมูลฝอย หญ้าแห้ง โดยไม่มีคนดูแล เพราะไฟที่ยังไม่ดับเกิดลมพัด คุขึ้นมาอีก มีลูกไฟปลิวไปจุดติดบริเวณใกล้เคียงได้
-
(11) อย่าลืมเสียบปลั๊กไฟฟ้าทิ้งไว้
-
(12) อย่าทิ้งอาคารบ้านเรือนหรือคนชราแลเด็กไว้โดยไม่มีผู้ดูแล
-
(13) อย่าสูบบุหรี่ขณะเติมน้ำมันรถ
-
(14) ดูแลการหุงต้มเมื่อเสร็จการหุงต้มแล้วให้ดับไฟถ้าใช้เตาแก๊สต้องปิดวาล์วเตาแก๊สและ
ถังแก๊สให้เรียบร้อย
-
(15) เครื่องเขียนแบบพิมพ์บางชนิดไวไฟ เช่น กระดาษไข ยาลบกระดาษไข กระดาษแผ่นบาง ๆ อาจเป็นสื่อสะพานไฟทำให้เกิดอัคคีภัยติดต่อคุกคามได้
-
(16) ดีดีที สเปรย์ฉีดผม ฉีดใกล้ไฟ จะติดไฟและระเบิด
-
(17) เกิดไฟฟ้าลัดวงจรในคืนฝนตกหนัก เพราะสายไฟที่เก่าเปื่อย เมื่อวางทับอยู่กับฝ้าเพดาน ไม้ผุที่มีความชื้นย่อมเกิดอันตรายจากกระแสไฟฟ้าขึ้นได้
-
(18) เกิดฟ้าผ่าลงที่อาคารขณะมีพายุฝน ถ้าไม่มีสายล่อฟ้าที่ถูกต้องก็ต้อง เกิดเพลิงไหม้ขึ้น ได้อย่างแน่นอน
-
(19) เตาแก๊สหุงต้มในครัวเรือนหรือสำนักงานเกิดรั่ว
-
(20) รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เกิดอุบัติเหตุหรือถ่ายเทน้ำมันเบนซิน เกิดการรั่ว ไหลก็น่าเกิด อัคคีภัยขึ้นได้
-
(21) ในสถานที่บางแห่งมีการเก็บรักษาเคมีที่อาจก่อให้เกิดอัคคีภัยได้ง่าย อาจ คุไหม้ขึ้นได้เอง สารเคมีบางชนิด เช่น สีน้ำมันและน้ำมันลินสีด เป็นต้น เมื่อคลุกเคล้ากับเศษผ้าวางทิ้งไว้อาจคุไหม้ขึ้นเอง ในห้องทดลองเคมีของ โรงเรียน เคยมีเหตุเกิดจากขวดบรรจุฟอสฟอรัสเหลือง (ขวด) พลัด ตกลงมา เกิดแตกลุกไหม้ขึ้น
-
(22) ซ่อมแซมสถานที่ เช่น การลอกสีด้วยเครื่องพ่นไฟ การตัดเชื่อมโลหะด้วย แก๊สหรือไฟฟ้า การทาสีหรือพ่นสีต้องทำด้วยความระมัดระวัง อาจเกิดไฟ คุไหม้ขึ้นได้
-
4. ความร่วมมือที่ดี จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงนายตรวจป้องกันอัคคีภัยได้ให้ไว้ และปฏิบัติตามข้อห้ามที่วางไว้เพื่อความปลอดภัยจากสถาบันต่างๆ
5. ประการสุดท้าย จะต้องมีน้ำในตุ่มเตรียมไว้สำหรับสาดรดเพื่อให้อาคารเปียกชุ่มก่อนไฟจะมาถึง เตรียมทรายและเครื่องมือดับเพลิงเคมีไว้ให้ถูกที่ถูกทางสำหรับดับเพลิงชั้นต้นและต้องรู้จักการใช้ เครื่องดับเพลิงเคมีด้วย และระลึกอยู่เสมอว่าเมื่อเกิดเพลิงไหม้แล้วจะ ต้องปฏิบัติดังนี้
-
(1) แจ้งข่าวเพลิงไหม้ทันที โทร. 199 หรือสถานีดับเพลิงสถานีตำรวจใกล้เคียงโดยแบ่งหน้าที่กันทำ
-
(2) ดับเพลิงด้วยเครื่องดับเพลิงที่มีอยู่ในบริเวณที่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ
-
(3) หากดับเพลิงชั้นต้นไม่ได้ให้เปิดประตูหน้าต่างบ้านและอาคารทุกบานและอุดท่อ ทางต่างๆ ที่อาจเป็นทางผ่านความร้อน ก๊าซ และควันเพลิงเสียด้วย
ข้อควรปฏิบัติ
-
(1) ช่วยคนชรา เด็ก และคนที่ช่วยตัวเองไม่ได้ ไปอยู่ที่ปลอดภัย
-
(2) อย่าใช้ลิฟต์ในขณะเกิดเหตุ
-
(3) ขนย้ายเอกสารและทรัพย์สินที่มีค่าเท่าที่จำเป็นตามสถานการณ์และนำไปเก็บกองรวมอย่าให้ ฉีกขาดลุ่ย โดยป้องกันมิให้น้ำกระเซ็นเปียก
ข้อควรระวังและวิธีปฏิบัติเมื่อแก๊สรั่ว
|
-
(1) เมื่อได้กลิ่นแก๊สปิดวาล์วหัวถังทันที
(2) เปิดประตู หน้าต่าง ให้อากาศถ่ายเทเพื่อให้แก๊สเจือจาง
(3) ห้ามจุดไม้ขีด ไฟแช็ก เปิด-ปิดสวิตซ์ไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบริเวณที่มีแก๊สรั่ว
(4) ใช้ไม้กวาดกวาดแก๊สออกทางประตู
(5) ตรวจหาที่รั่วและแก้ไขทันที
(6) หากถังแก๊สมีรอยรั่วให้นำถังแก๊สนั้นไว้ในที่โล่งที่ปลอดภัย
(7) ท่อยางต้องไม่อยู่ใกล้เปลวไฟ
(8) ห้องน้ำที่ใช้เครื่องทำน้ำร้อนแก๊ส ควรมีช่องระบายอากาศเพื่อให้มีออกซิเจนเพียงพอ
|
ทำอย่างไรให้เกิดเพลิงไหม้มีน้อยที่สุด
|
จากเบื้องต้นที่กล่าวมาได้เน้นถึงลักษณะและหลักการใช้อุปกรณ์ดับเพลิงเบื้องต้น แต่ทั้งนี้จะเป็นการดีมากหากเราสามารถป้องกัน มิให้เกิดเพลิงไหม้ ขึ้นเลย เพราะไม่ว่าเพลิงไหม้จะเกิดขึ้นเล็กน้อยก็จะนำมาซึ่งความเสีย หายทางทรัพย์สินเงินทอง เวลา หรือแม้กระทั่งสุขภาพจิต
-
ในที่นี้ขอเน้นถึงหลักการปฏิบัติโดยทั่วไปเพื่อความปลอดภัยจากอัคคีภัยในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งจะแบ่งการปฏิบัติไว้เป็น 2 บริเวณ คือ บริเวณที่มีการผลิตและที่ใช้ในการเก็บสินค้า
บริเวณที่มีการผลิต
(1) ด้านเครื่องจักร
-
- ควรมีการตรวจเช็คซ่อมบำรุงเป็นประจำให้อยู่ในสภาพที่ดี
(2) ด้านเครื่องใช้ไฟฟ้า
-
- สายไฟฟ้าและอุปกรณ์ต้องอยู่ในสภาพที่ดีและได้รับการตรวจเช็คเป็นประจำ
-
- ควรหลีกเลี่ยงการต่อสายไฟฟ้าโดยใช้ผ้าเทปพันหรือการต่อแบบชั่วคราว
-
- หลังเลิกงานควรปิดสวิตซ์อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เมนใหญ่
(3) การขจัดแหล่งที่เป็นบ่อเกิดของไฟอื่น ๆ
-
- ควรงดมิให้มีการสูบบุหรี่ในบริเวณที่มีการผลิต
-
- ความสะอาดเป็นหลักเบื้องต้นของการป้องกันอัคคีภัย บริเวณที่มีการผลิตควรมีถัง หรือถาดไว้รองรับเศษของการผลิตหรือเศษของอื่น ๆ และหลังเลิกงานต้องนำไปทิ้งทุกวัน
-
- กรรมวิธีใดที่มีความอันตรายในการก่อให้เกิดอัคคีภัยสูงควรจะแยกออกจากส่วนต่าง ๆ และจัดให้มีการป้องกันเฉพาะขึ้น
(4) การจัดเก็บสินค้า
-
- สินค้าไม่ว่าวัตถุดิบหรือสำเร็จรูปควรอยู่ในบริเวณการผลิตน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น
-
- วัตถุไวไฟที่ใช้ในการผลิตต้องถูกจำกัดเพียงเพื่อพอใช้ในหนึ่งวัน หลังเลิกงานต้องนำวัตถุไวไฟนั้นไปเก็บยังที่จัดไว้เฉพาะ
(5) การปฏิบัติหลังเลิกงาน
-
- หลังเลิกงานทุกวันควรมีการเดินตรวจดูความเรียบร้อย เช่น วัตถุไฟฟ้าได้นำไปเก็บในที่จัดเก็บไว้โดยเฉพาะ อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชิ้นได้ปิดสวิตซ์เรียบร้อยหรือยัง และรวมถึงการทำความสะอาดด้วย
บริเวณที่ใช้เก็บสินค้า
(1) ด้านการจัดเก็บ
-
- การเก็บสินค้าควรเก็บอย่างมีระเบียบ ภายในบริเวณจัดเก็บต้องมีช่องทางเดินสินค้า ควรจัดเก็บเป็นล็อก ๆ ในแต่ละเลือกต้องมีช่องทางเดินและปริมาณสินค้าไม่มากเกินไปความสูงไม่เกิน 6 เมตร หรือ 1 เมตร จากเพดานถึงหลังคาและสินค้าควรอยู่ห่างจากแสงไฟ
-
- สินค้าควรอยู่บนที่รองรับหรือชั้นวางของ
-
- ควรเว้นและมีการขีดเส้นกำหนดแนววางสินค้า
(2) การจับยกสินค้า
-
- ของเหลวไวไฟ แก๊สหรือวัตถุไวไฟอื่น ๆ ควรเก็บแยกต่างหากจากสินค้าอื่น ๆ และสามารถทำได้ควรแยกห้องเก็บวัตถุไวไฟ
(3) การขจัดแหล่งที่เป็นบ่อเกิดของไฟอื่น ๆ
-
- ควรงดมิให้มีการสูบบุหรี่ในบริเวณที่มีการเก็บสินค้า
-
- ไม่ควรมีการผลิตหรือดำเนินการใด ๆ ในบริเวณที่เก็บสินค้า เช่น การอัดแบตเตอรี่
-
- ควรรักษาความสะอาดบริเวณที่เก็บสินค้าเป็นประจำ เช่น จากเศษกระดาษที่ใช้ห่อสินค้า
(4) การตรวจเช็คดูแลและความปลอดภัย
-
- สายไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าในบริเวณที่เก็บสินค้าควรได้รับการตรวจ เช็คเป็นประจำ
-
- บริเวณที่เก็บสินค้าควรปิดล็อคไว้เสมอเมื่อไม่ได้ใช้และห้ามบุคคลภายนอกซึ่งไม่ได้รับอนุญาติเข้าไป
-
- อุปกรณ์ดับเพลิงควรติดตั้งบริเวณทางเข้าออก
|
พ.ร.บ. ป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2535 |
1. อำนาจหน้าที่นายตำรวจ
-
1. หน้าที่
-
ตรวจดูว่ามีสิ่งใดบ้างอยู่ในภาวะอันอาจทำให้เกิดอัคคีภัยได้ง่าย
-
ตรวจตราดูบุคคลต่างๆ ผู้มีหน้าที่ต้องปฏิบัติการป้องกันอัคคีภัยตามกฎหมายนี้ได้ปฏิบัติถูกต้องหรือไม่
-
2. อำนาจ
-
เข้าไปในอาคารระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก
-
แนะนำเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร
-
3. การปฏิบัติ
-
แสดงเครื่องหมายประจำตัว
-
ชี้แจงเหตุผลในการเข้าไปในอาคาร หรือการแนะนำการปฏิบัติ
-
รายงานผลต่อเจ้าหน้าที่
2. ประชาชนปฏิบัติร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการป้องกันอัคคีภัย
-
1. ยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจ
-
2. ปฏิบัติตามคำแนะนำ ปฏิบัติไม่ได้ให้อุทธรณ์ภายในกำหนด 7 วัน
-
3. เก็บรักษา มีไว้ หรือใช้ซึ่งสิ่งที่อาจทำให้เกิดอัคคีภัยได้ง่าย ปฏิบัติตามกฎกระทรวง
-
4. ผู้ประกอบกิจการอันอาจทำให้เกิดอัคคีภัยได้ง่ายต้องมีสิ่งจำเป็นในการป้องกันฯ หรือระงับอัคคีภัย กำหนดในกฎกระทรวง
3. บทกำหนดโทษ
-
พ.ร.บ. ป้องกันฯ หมวด 4 ม. 27-32 เป็นบทกำหนดโทษผู้ขัดขืนฝ่าฝืนละเลยไม่ปฏิบัติตามที่กำหนดไว้ในบทบัญญัติหรือกระทำโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ทั้งในด้านป้องกันและระงับอัคคีภัย
-
3.1 การป้องกันอัคคีภัย
-
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ยอมให้นายตรวจเข้าไปในอาคารเมื่อมีผลอันแสดงให้เห็นว่า มีสิ่งใดอยู่ข้างในภาวะอันอาจทำให้เกิดอัคคภัยได้ง่าย
-
คำว่าผู้ใด คือ จะเป็นก็ได้ตามเหตุผลดังกล่าวย่อมมีความผิดต้องวางโทษปรับไม่เกิน 200 บาท
-
ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงตาม พ.ร.บ. นี้มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
-
ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเป็นคำสั่งโดยลายลักษณ์อักษร ต้องมีความผิดวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารต้องปฏิบัติตามคำสั่งของศาลให้ขนย้าย เปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือทำลายสิ่งอาจทำให้เกิดอัคคีภัยได้ง่าย ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลอีก จำเป็นต้องออกค่าใช้จ่ายให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ร้องขออนุญาตต่อศาลเพื่อกระทำการนั้นเอง
-
3.2 การระงับอัคคีภัย
-
เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารซึ่งอาศัยอยู่ละเลยไม่ปฏิบัติทำการดับเพลิง และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ วางโทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-
บุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลรักษา มีความผิด เช่นเดียวกัน
-
ผู้ใดพบเพลิงไหม้ ละเลยไม่แจ้งเจ้าของหรือผู้ครอบครองไม่ดับ หรือไม่สามารถดับเพลิงได้ แล้วไม่แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ มีโทษปรับ 50 บาท
-
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ปิดกั้นทางเข้าออกของเจ้าหน้าที่ในการดับเพลิงและซ่อมการดับเพลิง มีโทษปรับ 1,000 บาท
4. เกี่ยวกับเครื่องแบบเครื่องหมาย
-
4.1ผู้ใดแต่งเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายสำหรับเจ้าหน้าที่ โดยไม่มีอำนาจหน้าที่จะแต่งหรือประดับได้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-
4.2 ผู้ใดอวดอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ มีความผิดเช่นข้อที่ 1
-
4.3 ผู้ใดแจ้งเหตุหรือแกล้งให้อาณัติสัญญาณหรือเครื่องหมายที่ใช้ในการป้องกัน หรือระงับอัคคีภัย มีความผิดเช่นข้อที่ 1
|

ขอบคุณ th.wikipedia.org/wiki
|